Thursday, 19 April 2012

ระวังภัยแก๊งค์มิจฉาชีพ รูปแบบใหม่ ใน Food Center ภัยใกล้ตัวที่เราไม่ทันคาดคิด

ใครเคยวางอาหารจองโต๊ะ กรุณาอ่านด่วน ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป
ถ้าไม่มีเพื่อนจองโต๊ะให้ใช้ถาดใส่อาหารจนครบค่อยยกมาทีเดียวเลยจะปลอดภัยกว่า
ภัยแบบนี้ไม่ได้มีแก๊งเดียวนะจ๊
การวางจานอาหารจองโต๊ะที่ Food Center ไว้ แล้วเดินไปซื้ออย่างอื่นเพิ่มเติม อาจเป็นอันตราย    


ระวังตัวเองดีๆ นะ 

นางผาสุก อายุ ๒๘ ปี เข้าไปจับจ่ายซื้อของที่
ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อรู้สึกหิว จึงแวะที่
ศูนย์อาหารของห้าง

ที่นั่นมีผู้คนพลุกพล่าน เธอจึงไม่ทันสังเกตถึงสายตาประสงค์ร้ายสองคู่กำลังจับจ้องตนเองซึ่งมีเครื่องประดับมีค่าบนตัวเป็นเป้าหมาย

ผาสุกทิ้งอาหารไว้บนโต๊ะเพื่อไปซื้อเครื่องดื่ม
จึงเป็นโอกาสของคนร้ายที่จะลงมือปฏิบัติการ
จริยา(นังนกต่อ)
1 ในแก็งฟ้าสฟู้ด ซึ่งนั่งห่าง
ออกไปไม่ไกลกันนัก รีบเดินมาที่โต๊ะของ
นางผาสุก ทำทีเป็นหยิบทิชชูบนโต๊ะ ด้วยความรวดเร็วแอบเทยานอนหลับอย่างแรงใส่ลงไปในอาหารที่ผาสุกวางทิ้งไว้ แล้วทำทีเดินผละออกไป เพื่อเลือกซื้ออาหารตามบู๊ทแถวนั้น 

ผาสุกกลับมาที่โต๊ะพร้อมน้ำดื่มและเริ่มลงมือ รับประทานอาหาร ขณะที่จริยาก็หาที่นั่งที่ใกล้ที่สุด....ทำทีดื่มน้ำ

'
ตอนนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไร ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งใกล้ๆ เพราะFood Center มันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว อีกอย่าง เห็นว่าเขาก็เป็น
ผู้
หญิงด้วยกันผาสุกให้การกับเจ้าหน้าที่ฯ

เพียงเวลาไม่นานที่
ผาสุกรับประทานอาหารผสมยานอนหลับเข้าไป เธอก็เริ่มง่วงงุน และนั่นคือโอกาสของ แก๊งมิจฉาชีพ 

จริยาตรงรี่เข้าหาเหยื่อทันที 'ขอโทษค่ะ คืออยากจะถามว่าแผนกเครื่องสำอางนี่อยู่ชั้นไหน ผาสุกพยายามตั้งสติ แต่ความง่วงซึมมันก่อตัวขึ้นรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้

'คุณเป็นอะไรไปคะ...ไม่สบายหรือคะ
จริยา รีบเข้าประคองผาสุกห้ลุกขึ้น ซึ่งเธอก็หมดแรงจะขัดขืน 'ฉันจะพยุงไปนะคะ สงสัยต้องไปโรงพยาบาลด่วนแล้วล่ะค่ะ' จริยากึ่งลาก    
กึ่งประคอง "หิ้ว"เอาผาสุกออกไปจากบริเวณนั้น 
โดยมีสายตาหลายคู่จ้องตามไป แต่ไม่มีใครเอะใจ เพราะภาพที่เห็นคือผู้หญิงคนหนึ่งไม่สบายและเพื่อนกำลังพาออกไป ไม่มีใคร 
ใส่ใจว่าใครเป็นใคร มาคนเดียวหรือมากับใคร นอกจากแก๊งมิจฉาชีพเท่านั้น!

ผาสุกให้การกับ เจ้าหน้าที่ฯต่อไปว่า 'ตอนนั้น 
เท่าที่จำได้ก็คือง่วงสุดๆ หนังตามันจะปิดซะให้ได้
ฉันพยายามสู้กับมัน พยายามจะไม่หลับ แต่ก็ไม่มีแรง รู้แต่ว่ามีคนหิ้วประคองไปตลอด' 


จริยานางนกต่อพยายามพยุงเหยื่อที่ใกล้
หมดสติไปยังจุดนัดพบ ซึ่งที่นั่น ไกรสร
  สมาชิกร่วมแก๊ง สวมรอยเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้างคอยท่าอยู่แล้ว ไกรสรตะโกนถาม 'มอเตอร์ไซค์มั้ยพี่'   
จริยารีบตอบว่า 'ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
เพียงเท่านั้น..ก็ขจัดความสงสัยของคนรอบๆ ไปได้หมด
จริยาก็พยุงผาสุกขึ้นรถจักรยานยนต์ซ้อนสามไปด้วยกัน(บางแก๊งใช้รถโดยสารประเภทอื่น)
แน่นอน คนร้ายมิได้นำเธอส่งโรงพยาบาล แต่กลับพาไปยังบ้านพักของตนเองที่ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน

เมื่อไปถึง..ผาสุกพยายามลืมตามองรอบๆ ก่อนจะอาเจียนออกมาจนหมด สองมิจฉาชีพรีบประคองผาสุกเข้าไปข้างใน มงคลหัวหน้า
แก๊งซึ่งรออยู่แล้วละลายยานอนหลับให้หญิงสาวดื่มอีก แต่คราวนี้เธอปัดป้องจึงถูกจับ กรอก ทั้งคู่ช่วยกันปลดทรัพย์ จริยาหยิบกระเป๋าสตางค์ของผาสุกออกดูบัตรประชาชน 'อยู่ไหนวะ' เสียงมงคลถาม 'แถวเยาวราชพี่' มงคลจึงพยักเพยิดให้จริยาออกไปแล้วจัดการปลดกระดุมเสื้อผาสุกหมายจะข่มขืน ซึ่งพวกมันมักจะทำเป็นประจำภายหลังจากรูดทรัพย์แล้ว แต่ครั้งนี้เหยื่อไม่มีท่าทีจะหมดสติเอาง่ายๆ

'ที่ฉันจำสถานที่ได้ เพราะฉันคุ้นเคยแถวนั้นมาก่อน และคงเป็นเพราะฉันอาเจียนออกมาหมดด้วย' ผาสุกให้การต่อไป
'ตอนที่มาถึงบ้านคนร้าย ก็พยายามสำรวจว่าเราอยู่ที่ไหน รู้สึกว่ามันผิดปกติแล้ว แต่ไม่มีแรง พวกมันเอาน้ำมาให้กิน แต่คิดว่าเป็นยานอนหลับอีก ไอ้คนที่เป็นหัวหน้าพยายาม
ลวนลาม
 ฉันเลยรวบรวมสติขัดขืน มันก็คงร้อนตัว'

เมื่อเห็นว่าเหยื่อยังมีสติ คนร้ายจึงรีบร้อนพาเหยื่อออกจากบ้านโดยเร็ว คราวนี้ด้วยรถแท๊กซี่ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน นำเธอไปทิ้งไว้ไม่ไกลจากบ้านของเธอเอง

'ตอนนั้นฉันเกือบจะ
หมด สติแล้ว แต่ยังจำได้ว่าเป็นซอยบ้าน จึงพยายามกระเสือกกระสนไปจนถึง พอเข้าบ้านก็หลับเป็นตายเลย "
ผาสุกสรุปคำให้การ.......เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง

หลังจากที่พยายามทบทวนเหตุการณ์อย่างหนัก เธอก็จำได้ว่า ละแวกที่ถูกพาไปปลดทรัพย์นั้น นเองเคยไปทำธุระมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้ เธอจึงชวนน้องสาวไปแอบสำรวจ เพื่อความแน่ใจ


'
ใช่ ใช่ แน่เลย นั่นไงมอเตอร์ไซค์คันนั้นนั่นแหละ แล้วกองนั้นก็รอยอ้วกของพี่'

พฤติกรรมของมิจฉาชีพเหล่านี้ คงกระทำกับเหยื่อรายอื่นๆ ต่อไปได้อีกหลายราย 
ถ้านางผาสุกไม่ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ความจริงทาง
เจ้าหน้าที่ฯก็ได้รับข้อมูลพฤติกรรมเหิมเกริม และกำลังติดตามสืบแก๊งคนร้ายพวกนี้อยู่ แต่ที่ผ่านมาไม่มีเจ้าทุกข์ยอมแจ้งความ บางคนเป็นพยาบาล บางคนเป็นนักธุรกิจ ยิ่งถ้าโดนข่มขืนด้วยก็ยิ่งแหยง
คราวนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทั้งแก๊งพร้อมคำสารภาพ

'ผมจะคอยเฝ้าดูอยู่ที่
Food Center ตามห้างต่างๆ คอยดูคนที่มีทองเยอะๆ ท่าทางมีฐานะ
ทำมาหลายครั้ง กว่า ๒๐ ครั้งได้ ยานอนหลับจะใช้อย่างแรงเลย ซื้อจากร้านขายยาที่บางแค เอามาบดผสมน้ำ ที่ผ่านมามักจะเป็นผู้หญิง รูดทรัพย์แล้วก็ข่มขืนด้วย เพื่อให้เขาไม่กล้าแจ้งความ'  


  ++ กรุณาส่งต่อให้กับคนที่คุณรัก +