Tuesday, 25 September 2012

ใครที่คิดจะขายเครื่องสำอางค์เกาหลี ต้องอ่าน...



ใครที่คิดจะขายเครื่องสำอางค์เกาหลีของแท้นะ  เท่าที่เราศึกษาข้อมูลมา เราไม่ผิดกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร หรือเครื่องหมายการค้า  แต่เราจะผิดกฏหมาย 2 เรื่อง คือ พรบ.เครื่องสำอางค์ เพราะต้องมีการขอ
อนุญาติจาก อย ก่อน ปัจจุบันเครื่องสำอางค์ทุกชนิดเป็นเครื่องสำอางค์ควบคุมหมดแล้ว  อีกเรื่องคือ ผิด พรบ. ศุลกากร  ก็คือต้อง
เสียภาษีการนำเข้ามาขาย  แต่ทั้งสองอย่างไม่ใช่หน้าที่ของบริษัทนำเข้าเครื่องสำอางค์  เป็นหน้าที่ของ อย. ศุลกากร และตำรวจ
ที่จับได้ ก็มี ปคบ. และ ปอศ .  และต้องจับให้ถูกขั้นตอนของกฏหมายด้วย

ทีนี้มาดูเกี่ยวกับกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่พวกหมาชอบเอามาแอบอ้างกัน

1.ลิขสิทธิ์   หมายถึง สิทธิ์ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ คนที่เป็นคนทำขึ้นมา ก็จะได้ลิขสิทธิ์ในงานนั้นโดยอัตโนมัติ 
ได้มาโดยไม่ต้องจด ถึงจดลิขสิทธิ์  ก็ไม่มีผลอะไรในทางกฏหมาย เพียงแต่เป็นการรับรองว่าเราเป็นคนสร้างสรรค์งานนั้นขึ้นมานะ
การละเมิดลิขสิทธิ์ ก็คือ  การทำซ้ำ ( copy ) หรือดัดแปลง  นั่นเอง  เพราะฉะนั้นการที่เรานำเข้าเครื่องสำอางค์ของจริง โดยที่
เรา ไม่ได้ไปทำซ้ำหรือดัดแปลงอะไรในตัวสินค้านั้น ๆ เลย จั๊กกะนิดเดียว  ก็ถือว่าเราไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทที่เกาหลีแต่อย่างใด

2. สิทธิบัตร หมายถึง สิทธิในการผลิต  เป็นการคุ้มครองวิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์นั้น ๆ เช่น สูตรในการผลิตเครื่องสำอางค์ชิ้นนี้ชิ้นนั้น
 สิทธิบัตร จะมีผลโดยการจดทะเบียน 
การละเมิดสิทธิ์บัตร ก็คือ  การลักลอบผลิตสินค้าโดยสูตร หรือวิธีการของเค้าโดยไม่ได้ขออนุญาตินั่นเอง   แต่ของเราไม่ได้เป็น
โรงงานผลิต และไม่ได้ไปแอบลักสูตรของเค้ามาผลิตเลย ซื้อมาทั้งดุ้น  แบสำเร็จ  เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเราไม่ได้ละเมิดสิทธิ์บัตร
ของบริษัทที่เกาหลีแต่อย่างใด

3. เครื่องหมายการค้า   เป็นการคุ้มครอง ตรา ยี่ห้อ รูปทรง หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้คนแยกออกได้ว่า ฉลากนี้ ต้องยี่ห้อนี้
การละเมิดเครื่องหมายการค้า ก็คือการทำสินค้าโดยการปลอมเครื่องหมายการค้านั้นเอง เช่น ผลิตเครื่องสำอางค์ขึ้นมาแล้วเอา
ตราของอีทูดี้มาแปะ เพื่อให้คนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของอีทูดี้จริง   เพราะฉะนั้นการที่เรานำเข้าและซื้อมาจากบริษัทที่มันผลิต
และเราไม่ได้ทำการผลิตขึ้นมาเอง  ก็ถือว่าเราไม่ได้ละเมิดเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกาหลีแต่อย่างใด

ที่นี้บริษัทตัวแทนจำหน่ายชอบอ้างว่ามีสิทธจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย   เราก็ต้องมาดูกันว่า บริษัทที่ได้สิทธิ์
นี้ต้องทำสัญญา กับบริษัทแม่ เท่านั้น  บริษัทแม่ที่เกาหลีจะแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายซ้อนไม่ได้  แต่การที่เรานำมาขายเอง
สัญญาไม่มีผลกับบุคคลที่ 3 แน่นอน  เพราะเราไม่ได้ไปทำสัญญากับมันด้วยนิ เพราะฉะนั้น มันฟ้องเราไม่ได้ เพราะได้สิทธิ์
แค่ขายเท่านั้น  บริษัทมันไม่ได้ซื้อสิทธิการผลิต ไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า และบริษัทแม่ที่เกาหลีก็ไม่ได้โอน
เครื่องหมายการค้าให้แต่อย่างใด  แต่เค้ากลับมาจดเครื่องหมายการค้าเองในเมืองไทย ด้วยซ้ำ

แต่การที่เรานำเข้ามาขายแข่งกับตัวแทนจำหน่ายแบบนี้ เรียกว่า การนำเข้าซ้อน   ซึ่งเราจะขายสินค้าได้ถูกกว่าตัวแทน
จำหน่าย  ทำให้ยอดขายของบริษัทเสียหายมหาศาลลลลล  บริษัทจึงต้องหาวิธีที่จะยับยั้งการนำเข้าซ้อน  โดยการบังคับใช้
สิทธิ์ในทรพัย์สินทางปัญญา โดยอ้างว่า ละเมิดสิทธิ์ของบริษัทตน  ปัญหามันจึงอยู่ที่ว่า บริษัทตัวแทนจำหน่ายนี้จะบังคับ
ใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อห้ามการนำเข้าซ้อนได้หรือไม่ 

มีหลักกฏหมายอยู่ข้อหนึ่งที่คุณ M บอก คือ หลักการระงับสิ้นไปของสิทธ์ในทรัพย์สินทางปัญญา 
ก็คือ  เมื่อได้มีการวางจำหน่ายสินค้าภายใต้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาโดยชอบแล้ว  สิทธิทางกฏหมายเหนือสินค้านั้นย่อม
เป็นอันระงับสิ้นไป  ผู้ทรงสิทธิจะบังคับสิทธิของตนเอากับผู้ใช้ประโยชน์จากสินค้านั้นมิได้ เช่น ผู้ซื้อสินค้าที่วางจำหน่ายโดย
ผู้ทรงสิทธิ ย่อมมีสิทธิ์ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากสินค้านั้น ไม่ว่าจะด้วยการใช้ ขาย หรือจำน่ายสินค้านั้นต่อไป

ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราซื้อสินค้านั้นมาแล้ว ก็ถือเป็นกรรมสิทธ์ของเรา สิทธิของผู้ขายนั้นก็เป็นอันระงับไป
เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาสินค้านั้นมาขายต่อ ถือว่าเราขายกรรมสิทธิของเราโดยเสรี  ไม่ได้ขายลิขสิทธิ
หรือเราจะเอาไปปาหัวหมาเล่นก็ยังได้       แต่เราอาจจะโดนข้อหาทำร้ายร่างกายหมา... Grin

ถ้าเราเข้าใจผิดพลาดประการใดผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะ   ถ้าหมาจะเข้ามาอ่านก็ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นหลักกฏหมาย
ทนายบริษัทมันย่อมรู้ดีอยู่แล้ว  มันจะใช้หลักกฏหมายพวกนี้หลอกได้ก็แต่เฉพาะคนที่ไม่รู้กฏหมายและคนที่ขี้กลัวเท่านั้นเอง
 Angry Angry


ขอบคุณคุณ Than มากๆค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย
ที่มา http://ict.in.th/39406.60




ลิขสิทธิ์ Etude ระวัง โดนล่อซื้อนะคะ

แจ้งข่าวนิดนึงเรื่อง ค่ะ เรื่อง Etude คือ ตอนนี้ถ้าเป็น คนมาจาก Etude จริงๆ เค้าจะไม่จับนะคะ เค้าจะเสนอให้เรารับของจาก บริษัท คอสเมก้า ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย Etude ในประเทศไทยน่ะค่ะ มาขาย โดดมี 2 แบบคือ
1. แบบเฟรนไซด์ จะสามารถโปรโมทคำว่า Etude House ได้ค่ะ
2. แบบรับไปขายธรรมดา จะสามารถโปรโมทคำว่า Etude ได้เท่านั้นค่ะ
โดย เรทขายส่ง ก็แพงกว่าที่หิ้วๆ กันอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่เว่อมาก เช่นนะคะ ปกติรับ 27-30 เค้าจะให้เรา 33 ค่ะ ซึ่งเราจะรับมาตั้งราคาเองได้
สินค้าที่ได้มาจะมาฉลากภาษาไทย ถูกต้อง และในฉลากรุ่นใหม่เค้าจะทำเป็นสามมิติอะค่ะ แต่เทสเตอร์เค้าอมค่ะ เค้าไม่แจก  Lips Sealed 555

ที่ร้านรับของเค้ามาประมาณครึ่งปี ก็ ok ค่ะ ปลอดภัย  Roll Eyes ไม่มีปัญหาอะไร
ถ้ามีอะไรก็โทรไปหาคนที่ดูแลเราได้เลย
**แต่ต้องระวังคนที่แอบอ้างด้วยนะคะ** ยังไม่เจอ แต่คิดว่าต้องมีค่ะ ก็ตรวจเช็คอะไรให้มันถูกต้อง ถ้ามีอะไร โทรไปหาที่ บริษัทเลยว่า
มีคนชื่อนี้ๆ เป็นเซลล์ หรือเป็น เฟรนไซด์เมเนเจอร์ มาติดต่อนี่ ของจริงมั๊ย

ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ดังนั้นอีพวกที่มาจับของแท้ พวกนั้นหวังเงินค่ะ  Sad มั่วแน่นอน

ส่วน Skinfood เค้าไม่ทำแบบ Etude นะคะ ถ้ามีใครมาอ้างแบบนี้ ก็มั่วแน่นอน

ขอบคุณ คุณ Cerrita
เครดิตจาก http://ict.in.th/26827

Thursday, 19 April 2012

ระวังภัยแก๊งค์มิจฉาชีพ รูปแบบใหม่ ใน Food Center ภัยใกล้ตัวที่เราไม่ทันคาดคิด

ใครเคยวางอาหารจองโต๊ะ กรุณาอ่านด่วน ก่อนจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป
ถ้าไม่มีเพื่อนจองโต๊ะให้ใช้ถาดใส่อาหารจนครบค่อยยกมาทีเดียวเลยจะปลอดภัยกว่า
ภัยแบบนี้ไม่ได้มีแก๊งเดียวนะจ๊
การวางจานอาหารจองโต๊ะที่ Food Center ไว้ แล้วเดินไปซื้ออย่างอื่นเพิ่มเติม อาจเป็นอันตราย    


ระวังตัวเองดีๆ นะ 

นางผาสุก อายุ ๒๘ ปี เข้าไปจับจ่ายซื้อของที่
ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อรู้สึกหิว จึงแวะที่
ศูนย์อาหารของห้าง

ที่นั่นมีผู้คนพลุกพล่าน เธอจึงไม่ทันสังเกตถึงสายตาประสงค์ร้ายสองคู่กำลังจับจ้องตนเองซึ่งมีเครื่องประดับมีค่าบนตัวเป็นเป้าหมาย

ผาสุกทิ้งอาหารไว้บนโต๊ะเพื่อไปซื้อเครื่องดื่ม
จึงเป็นโอกาสของคนร้ายที่จะลงมือปฏิบัติการ
จริยา(นังนกต่อ)
1 ในแก็งฟ้าสฟู้ด ซึ่งนั่งห่าง
ออกไปไม่ไกลกันนัก รีบเดินมาที่โต๊ะของ
นางผาสุก ทำทีเป็นหยิบทิชชูบนโต๊ะ ด้วยความรวดเร็วแอบเทยานอนหลับอย่างแรงใส่ลงไปในอาหารที่ผาสุกวางทิ้งไว้ แล้วทำทีเดินผละออกไป เพื่อเลือกซื้ออาหารตามบู๊ทแถวนั้น 

ผาสุกกลับมาที่โต๊ะพร้อมน้ำดื่มและเริ่มลงมือ รับประทานอาหาร ขณะที่จริยาก็หาที่นั่งที่ใกล้ที่สุด....ทำทีดื่มน้ำ

'
ตอนนั้นก็ไม่ได้สงสัยอะไร ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งใกล้ๆ เพราะFood Center มันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว อีกอย่าง เห็นว่าเขาก็เป็น
ผู้
หญิงด้วยกันผาสุกให้การกับเจ้าหน้าที่ฯ

เพียงเวลาไม่นานที่
ผาสุกรับประทานอาหารผสมยานอนหลับเข้าไป เธอก็เริ่มง่วงงุน และนั่นคือโอกาสของ แก๊งมิจฉาชีพ 

จริยาตรงรี่เข้าหาเหยื่อทันที 'ขอโทษค่ะ คืออยากจะถามว่าแผนกเครื่องสำอางนี่อยู่ชั้นไหน ผาสุกพยายามตั้งสติ แต่ความง่วงซึมมันก่อตัวขึ้นรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้

'คุณเป็นอะไรไปคะ...ไม่สบายหรือคะ
จริยา รีบเข้าประคองผาสุกห้ลุกขึ้น ซึ่งเธอก็หมดแรงจะขัดขืน 'ฉันจะพยุงไปนะคะ สงสัยต้องไปโรงพยาบาลด่วนแล้วล่ะค่ะ' จริยากึ่งลาก    
กึ่งประคอง "หิ้ว"เอาผาสุกออกไปจากบริเวณนั้น 
โดยมีสายตาหลายคู่จ้องตามไป แต่ไม่มีใครเอะใจ เพราะภาพที่เห็นคือผู้หญิงคนหนึ่งไม่สบายและเพื่อนกำลังพาออกไป ไม่มีใคร 
ใส่ใจว่าใครเป็นใคร มาคนเดียวหรือมากับใคร นอกจากแก๊งมิจฉาชีพเท่านั้น!

ผาสุกให้การกับ เจ้าหน้าที่ฯต่อไปว่า 'ตอนนั้น 
เท่าที่จำได้ก็คือง่วงสุดๆ หนังตามันจะปิดซะให้ได้
ฉันพยายามสู้กับมัน พยายามจะไม่หลับ แต่ก็ไม่มีแรง รู้แต่ว่ามีคนหิ้วประคองไปตลอด' 


จริยานางนกต่อพยายามพยุงเหยื่อที่ใกล้
หมดสติไปยังจุดนัดพบ ซึ่งที่นั่น ไกรสร
  สมาชิกร่วมแก๊ง สวมรอยเป็นวินจักรยานยนต์รับจ้างคอยท่าอยู่แล้ว ไกรสรตะโกนถาม 'มอเตอร์ไซค์มั้ยพี่'   
จริยารีบตอบว่า 'ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด
เพียงเท่านั้น..ก็ขจัดความสงสัยของคนรอบๆ ไปได้หมด
จริยาก็พยุงผาสุกขึ้นรถจักรยานยนต์ซ้อนสามไปด้วยกัน(บางแก๊งใช้รถโดยสารประเภทอื่น)
แน่นอน คนร้ายมิได้นำเธอส่งโรงพยาบาล แต่กลับพาไปยังบ้านพักของตนเองที่ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน

เมื่อไปถึง..ผาสุกพยายามลืมตามองรอบๆ ก่อนจะอาเจียนออกมาจนหมด สองมิจฉาชีพรีบประคองผาสุกเข้าไปข้างใน มงคลหัวหน้า
แก๊งซึ่งรออยู่แล้วละลายยานอนหลับให้หญิงสาวดื่มอีก แต่คราวนี้เธอปัดป้องจึงถูกจับ กรอก ทั้งคู่ช่วยกันปลดทรัพย์ จริยาหยิบกระเป๋าสตางค์ของผาสุกออกดูบัตรประชาชน 'อยู่ไหนวะ' เสียงมงคลถาม 'แถวเยาวราชพี่' มงคลจึงพยักเพยิดให้จริยาออกไปแล้วจัดการปลดกระดุมเสื้อผาสุกหมายจะข่มขืน ซึ่งพวกมันมักจะทำเป็นประจำภายหลังจากรูดทรัพย์แล้ว แต่ครั้งนี้เหยื่อไม่มีท่าทีจะหมดสติเอาง่ายๆ

'ที่ฉันจำสถานที่ได้ เพราะฉันคุ้นเคยแถวนั้นมาก่อน และคงเป็นเพราะฉันอาเจียนออกมาหมดด้วย' ผาสุกให้การต่อไป
'ตอนที่มาถึงบ้านคนร้าย ก็พยายามสำรวจว่าเราอยู่ที่ไหน รู้สึกว่ามันผิดปกติแล้ว แต่ไม่มีแรง พวกมันเอาน้ำมาให้กิน แต่คิดว่าเป็นยานอนหลับอีก ไอ้คนที่เป็นหัวหน้าพยายาม
ลวนลาม
 ฉันเลยรวบรวมสติขัดขืน มันก็คงร้อนตัว'

เมื่อเห็นว่าเหยื่อยังมีสติ คนร้ายจึงรีบร้อนพาเหยื่อออกจากบ้านโดยเร็ว คราวนี้ด้วยรถแท๊กซี่ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน นำเธอไปทิ้งไว้ไม่ไกลจากบ้านของเธอเอง

'ตอนนั้นฉันเกือบจะ
หมด สติแล้ว แต่ยังจำได้ว่าเป็นซอยบ้าน จึงพยายามกระเสือกกระสนไปจนถึง พอเข้าบ้านก็หลับเป็นตายเลย "
ผาสุกสรุปคำให้การ.......เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง

หลังจากที่พยายามทบทวนเหตุการณ์อย่างหนัก เธอก็จำได้ว่า ละแวกที่ถูกพาไปปลดทรัพย์นั้น นเองเคยไปทำธุระมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้ เธอจึงชวนน้องสาวไปแอบสำรวจ เพื่อความแน่ใจ


'
ใช่ ใช่ แน่เลย นั่นไงมอเตอร์ไซค์คันนั้นนั่นแหละ แล้วกองนั้นก็รอยอ้วกของพี่'

พฤติกรรมของมิจฉาชีพเหล่านี้ คงกระทำกับเหยื่อรายอื่นๆ ต่อไปได้อีกหลายราย 
ถ้านางผาสุกไม่ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ความจริงทาง
เจ้าหน้าที่ฯก็ได้รับข้อมูลพฤติกรรมเหิมเกริม และกำลังติดตามสืบแก๊งคนร้ายพวกนี้อยู่ แต่ที่ผ่านมาไม่มีเจ้าทุกข์ยอมแจ้งความ บางคนเป็นพยาบาล บางคนเป็นนักธุรกิจ ยิ่งถ้าโดนข่มขืนด้วยก็ยิ่งแหยง
คราวนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทั้งแก๊งพร้อมคำสารภาพ

'ผมจะคอยเฝ้าดูอยู่ที่
Food Center ตามห้างต่างๆ คอยดูคนที่มีทองเยอะๆ ท่าทางมีฐานะ
ทำมาหลายครั้ง กว่า ๒๐ ครั้งได้ ยานอนหลับจะใช้อย่างแรงเลย ซื้อจากร้านขายยาที่บางแค เอามาบดผสมน้ำ ที่ผ่านมามักจะเป็นผู้หญิง รูดทรัพย์แล้วก็ข่มขืนด้วย เพื่อให้เขาไม่กล้าแจ้งความ'  


  ++ กรุณาส่งต่อให้กับคนที่คุณรัก +

Sunday, 26 February 2012

โดม The star 8 - ปาฏิหาริย์ที่รอคอย เพราะมากค่ะ

โดม The star 8 - ปาฏิหาริย์ที่รอคอย เพราะมากค่ะ ปีนี้ขอเชียร์คนนี้สุดใจ

Saturday, 25 February 2012

Bergamo Luxury Gold Collagen&Caviar Wrinkle Care Intense Repair Ampoule Set 20

Bergamo Luxury Gold Collagen&Caviar Wrinkle Care Intense Repair Ampoule Set 20 
เบอร์กาโม่สูตรทองคำแท้บริสุทธิ์ + คอลลาเจน สูตรใหม่จ้า ผสมคอลลาเจน ต่อต้านริ้วรอย


ราคา 1850 บาท จากราคาช็อบ7-8พัน

Bergamo Luxury Gold Collagen&Caviar Wrinkle Care Intense Repair Ampoule Set 20 
เบอร์กาโม่สูตรทองคำแท้บริสุทธิ์ + คอลลาเจน สูตรใหม่จ้า ผสมคอลลาเจน ต่อต้านริ้วรอย

“ ทองคำ กุญแจไขความงามพระนางคลีโอพัตรา ตั้งแต่ยุคโบราณ มีการค้นพบความมหัศจรรย์ของ “ทองคำ” ในการรักษาความงาม เพราะเชื่อกันว่า “ทองคำ” มีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวหลายอย่าง ทั้งช่วยการทำงานของต่อมน้ำเหลืองในการขับสารพิษและของเสีย, กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ชะลอความเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยยับยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส และยังมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็ทรงสวมใส่หน้ากากทองคำบริสุทธิ์ในขณะบรรทม เพื่อรักษาความงามและความอ่อนเยาว์ของผิวพรรณไว้ยาวนานที่สุด ด้วยส่วนผสมที่เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับโครงสร้างผิว ที่จะนำความสมบูรณ์ของเซลล์ผิวจากภายสู่ภายนอกทำให้ผิวพรรณสวยสดใสและคงสภาพ ความงามที่ปรากฏเอาไว้ นอกจากนี้ยังช่วยต่อต้านการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวทั้งจากปัจจัย ภายในและภาย นอกเช่น มลภาวะ แสงแดด สารพิษในร่างกาย ช่วยกระตุ้นให้ผิวมีชีวิตชีวา ใช้แล้วผิวสะอาด ขาวเนียนใสนุ่ม ชุ่มชื้น เร่งการหมุนเวียนของโลหิตและเร่งการเกิดใหม่ของเซลล์ อีกทั้งยังกระตุ้นการดูดซึมของผิวได้ดีขึ้นหลังจากการใช้


http://www.facebook.com/notes/inlovekorea/bergamo-luxury-gold-collagencaviar-wrinkle-care-intense-repair-ampoule-set-20-18/306231822769241

Wednesday, 25 January 2012

หนุ่มสาวที่ไม่อยากตกกระแสไม่ควรพลาด!


FOR TRENDY GIRLS & GUYS หนุ่มสาวที่ไม่อยากตกกระแสไม่ควรพลาด! โปรโมชั่นสุดคุ้ม กุมภาฯ 2555