Tuesday 25 September 2012

ใครที่คิดจะขายเครื่องสำอางค์เกาหลี ต้องอ่าน...



ใครที่คิดจะขายเครื่องสำอางค์เกาหลีของแท้นะ  เท่าที่เราศึกษาข้อมูลมา เราไม่ผิดกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญา ไม่ว่าจะเป็น
เรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร หรือเครื่องหมายการค้า  แต่เราจะผิดกฏหมาย 2 เรื่อง คือ พรบ.เครื่องสำอางค์ เพราะต้องมีการขอ
อนุญาติจาก อย ก่อน ปัจจุบันเครื่องสำอางค์ทุกชนิดเป็นเครื่องสำอางค์ควบคุมหมดแล้ว  อีกเรื่องคือ ผิด พรบ. ศุลกากร  ก็คือต้อง
เสียภาษีการนำเข้ามาขาย  แต่ทั้งสองอย่างไม่ใช่หน้าที่ของบริษัทนำเข้าเครื่องสำอางค์  เป็นหน้าที่ของ อย. ศุลกากร และตำรวจ
ที่จับได้ ก็มี ปคบ. และ ปอศ .  และต้องจับให้ถูกขั้นตอนของกฏหมายด้วย

ทีนี้มาดูเกี่ยวกับกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่พวกหมาชอบเอามาแอบอ้างกัน

1.ลิขสิทธิ์   หมายถึง สิทธิ์ที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ คนที่เป็นคนทำขึ้นมา ก็จะได้ลิขสิทธิ์ในงานนั้นโดยอัตโนมัติ 
ได้มาโดยไม่ต้องจด ถึงจดลิขสิทธิ์  ก็ไม่มีผลอะไรในทางกฏหมาย เพียงแต่เป็นการรับรองว่าเราเป็นคนสร้างสรรค์งานนั้นขึ้นมานะ
การละเมิดลิขสิทธิ์ ก็คือ  การทำซ้ำ ( copy ) หรือดัดแปลง  นั่นเอง  เพราะฉะนั้นการที่เรานำเข้าเครื่องสำอางค์ของจริง โดยที่
เรา ไม่ได้ไปทำซ้ำหรือดัดแปลงอะไรในตัวสินค้านั้น ๆ เลย จั๊กกะนิดเดียว  ก็ถือว่าเราไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของบริษัทที่เกาหลีแต่อย่างใด

2. สิทธิบัตร หมายถึง สิทธิในการผลิต  เป็นการคุ้มครองวิธีการสร้างสิ่งประดิษฐ์นั้น ๆ เช่น สูตรในการผลิตเครื่องสำอางค์ชิ้นนี้ชิ้นนั้น
 สิทธิบัตร จะมีผลโดยการจดทะเบียน 
การละเมิดสิทธิ์บัตร ก็คือ  การลักลอบผลิตสินค้าโดยสูตร หรือวิธีการของเค้าโดยไม่ได้ขออนุญาตินั่นเอง   แต่ของเราไม่ได้เป็น
โรงงานผลิต และไม่ได้ไปแอบลักสูตรของเค้ามาผลิตเลย ซื้อมาทั้งดุ้น  แบสำเร็จ  เพราะฉะนั้นก็ถือว่าเราไม่ได้ละเมิดสิทธิ์บัตร
ของบริษัทที่เกาหลีแต่อย่างใด

3. เครื่องหมายการค้า   เป็นการคุ้มครอง ตรา ยี่ห้อ รูปทรง หรืออะไรก็ตามที่จะทำให้คนแยกออกได้ว่า ฉลากนี้ ต้องยี่ห้อนี้
การละเมิดเครื่องหมายการค้า ก็คือการทำสินค้าโดยการปลอมเครื่องหมายการค้านั้นเอง เช่น ผลิตเครื่องสำอางค์ขึ้นมาแล้วเอา
ตราของอีทูดี้มาแปะ เพื่อให้คนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าของอีทูดี้จริง   เพราะฉะนั้นการที่เรานำเข้าและซื้อมาจากบริษัทที่มันผลิต
และเราไม่ได้ทำการผลิตขึ้นมาเอง  ก็ถือว่าเราไม่ได้ละเมิดเครื่องหมายการค้าของบริษัทที่เกาหลีแต่อย่างใด

ที่นี้บริษัทตัวแทนจำหน่ายชอบอ้างว่ามีสิทธจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย   เราก็ต้องมาดูกันว่า บริษัทที่ได้สิทธิ์
นี้ต้องทำสัญญา กับบริษัทแม่ เท่านั้น  บริษัทแม่ที่เกาหลีจะแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายซ้อนไม่ได้  แต่การที่เรานำมาขายเอง
สัญญาไม่มีผลกับบุคคลที่ 3 แน่นอน  เพราะเราไม่ได้ไปทำสัญญากับมันด้วยนิ เพราะฉะนั้น มันฟ้องเราไม่ได้ เพราะได้สิทธิ์
แค่ขายเท่านั้น  บริษัทมันไม่ได้ซื้อสิทธิการผลิต ไม่ได้เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้า และบริษัทแม่ที่เกาหลีก็ไม่ได้โอน
เครื่องหมายการค้าให้แต่อย่างใด  แต่เค้ากลับมาจดเครื่องหมายการค้าเองในเมืองไทย ด้วยซ้ำ

แต่การที่เรานำเข้ามาขายแข่งกับตัวแทนจำหน่ายแบบนี้ เรียกว่า การนำเข้าซ้อน   ซึ่งเราจะขายสินค้าได้ถูกกว่าตัวแทน
จำหน่าย  ทำให้ยอดขายของบริษัทเสียหายมหาศาลลลลล  บริษัทจึงต้องหาวิธีที่จะยับยั้งการนำเข้าซ้อน  โดยการบังคับใช้
สิทธิ์ในทรพัย์สินทางปัญญา โดยอ้างว่า ละเมิดสิทธิ์ของบริษัทตน  ปัญหามันจึงอยู่ที่ว่า บริษัทตัวแทนจำหน่ายนี้จะบังคับ
ใช้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อห้ามการนำเข้าซ้อนได้หรือไม่ 

มีหลักกฏหมายอยู่ข้อหนึ่งที่คุณ M บอก คือ หลักการระงับสิ้นไปของสิทธ์ในทรัพย์สินทางปัญญา 
ก็คือ  เมื่อได้มีการวางจำหน่ายสินค้าภายใต้สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาโดยชอบแล้ว  สิทธิทางกฏหมายเหนือสินค้านั้นย่อม
เป็นอันระงับสิ้นไป  ผู้ทรงสิทธิจะบังคับสิทธิของตนเอากับผู้ใช้ประโยชน์จากสินค้านั้นมิได้ เช่น ผู้ซื้อสินค้าที่วางจำหน่ายโดย
ผู้ทรงสิทธิ ย่อมมีสิทธิ์ที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากสินค้านั้น ไม่ว่าจะด้วยการใช้ ขาย หรือจำน่ายสินค้านั้นต่อไป

ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ เมื่อเราซื้อสินค้านั้นมาแล้ว ก็ถือเป็นกรรมสิทธ์ของเรา สิทธิของผู้ขายนั้นก็เป็นอันระงับไป
เพราะฉะนั้นถ้าเราเอาสินค้านั้นมาขายต่อ ถือว่าเราขายกรรมสิทธิของเราโดยเสรี  ไม่ได้ขายลิขสิทธิ
หรือเราจะเอาไปปาหัวหมาเล่นก็ยังได้       แต่เราอาจจะโดนข้อหาทำร้ายร่างกายหมา... Grin

ถ้าเราเข้าใจผิดพลาดประการใดผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะ   ถ้าหมาจะเข้ามาอ่านก็ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นหลักกฏหมาย
ทนายบริษัทมันย่อมรู้ดีอยู่แล้ว  มันจะใช้หลักกฏหมายพวกนี้หลอกได้ก็แต่เฉพาะคนที่ไม่รู้กฏหมายและคนที่ขี้กลัวเท่านั้นเอง
 Angry Angry


ขอบคุณคุณ Than มากๆค่ะ ได้ความรู้เยอะเลย
ที่มา http://ict.in.th/39406.60




ลิขสิทธิ์ Etude ระวัง โดนล่อซื้อนะคะ

แจ้งข่าวนิดนึงเรื่อง ค่ะ เรื่อง Etude คือ ตอนนี้ถ้าเป็น คนมาจาก Etude จริงๆ เค้าจะไม่จับนะคะ เค้าจะเสนอให้เรารับของจาก บริษัท คอสเมก้า ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย Etude ในประเทศไทยน่ะค่ะ มาขาย โดดมี 2 แบบคือ
1. แบบเฟรนไซด์ จะสามารถโปรโมทคำว่า Etude House ได้ค่ะ
2. แบบรับไปขายธรรมดา จะสามารถโปรโมทคำว่า Etude ได้เท่านั้นค่ะ
โดย เรทขายส่ง ก็แพงกว่าที่หิ้วๆ กันอยู่นิดหน่อย แต่ก็ไม่เว่อมาก เช่นนะคะ ปกติรับ 27-30 เค้าจะให้เรา 33 ค่ะ ซึ่งเราจะรับมาตั้งราคาเองได้
สินค้าที่ได้มาจะมาฉลากภาษาไทย ถูกต้อง และในฉลากรุ่นใหม่เค้าจะทำเป็นสามมิติอะค่ะ แต่เทสเตอร์เค้าอมค่ะ เค้าไม่แจก  Lips Sealed 555

ที่ร้านรับของเค้ามาประมาณครึ่งปี ก็ ok ค่ะ ปลอดภัย  Roll Eyes ไม่มีปัญหาอะไร
ถ้ามีอะไรก็โทรไปหาคนที่ดูแลเราได้เลย
**แต่ต้องระวังคนที่แอบอ้างด้วยนะคะ** ยังไม่เจอ แต่คิดว่าต้องมีค่ะ ก็ตรวจเช็คอะไรให้มันถูกต้อง ถ้ามีอะไร โทรไปหาที่ บริษัทเลยว่า
มีคนชื่อนี้ๆ เป็นเซลล์ หรือเป็น เฟรนไซด์เมเนเจอร์ มาติดต่อนี่ ของจริงมั๊ย

ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ดังนั้นอีพวกที่มาจับของแท้ พวกนั้นหวังเงินค่ะ  Sad มั่วแน่นอน

ส่วน Skinfood เค้าไม่ทำแบบ Etude นะคะ ถ้ามีใครมาอ้างแบบนี้ ก็มั่วแน่นอน

ขอบคุณ คุณ Cerrita
เครดิตจาก http://ict.in.th/26827